"Around The Japan" [1]
"ผีญี่ปุ่น[Ghost in Japan]"
Kamai-tachi... ฟันแล้วไม่ทิ้ง
คาไมทาจิ เป็นภูติลมตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เคลื่อนไหวรวดเร็วเหมือนลม ตามตำนานเล่าว่า คาไมทาจิอาศัยอยู่บนภูเขา มีอยู่ด้วยกัน 3 ตัว จะทำอันตราย เมื่อมีนักเดินทางผ่านมาจะเจอกับลมพายุหมุน โดยตัวแรกจะชนเหยื่อในล้ม ตามด้วยตัวที่สองฟันเหยื่อให้เป็นแผล ส่วนตัวสุดท้ายจะทายาแก้ปวดให้กับเหยื่อ แต่ยังไม่จบแค่นั้น คาไมทาจิ มีนิสัยรักการต่อสู้ ซึ่งไม่ไม่รู้ว่าไปรักตั้งแต่ตอนไหน คาไมทาจิฟันแล้วไม่ทิ้งอย่างแน่นอน แต่จะทายาและฟันซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะพอใจ นิสัยอย่างนี้แม้แต่ผีด้วยกันเองยังขยาดเล้ย !
Nekomata...แมวปีศาจ เนโกะมาตะ ตามตำนานเล่าว่า เมื่อแมวบางตัวมีอายุมากจะมีตบะที่สูงขึ้นด้วย และมันจะกลายเป็นแมวผี ที่เรียกว่า “บะเกะเนะโกะ” หากหางมันแยกออกเป็น 2 หางเมื่อไหร่ เมื่อนั้นมันจะสามารถอัพเกรดตัวเองกลายเป็น “เนะโกะมะตะ” ถือเป็นขั้นสุดของแมวปีศาจ สามารถขยายตัวเองได้ถึง 1 เมตร และเปลี่ยนสัญชาติตัวเองด้วยการเดินขาหลัง 2 ขา นอกจากนั้นยังเป็นแมวผีที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก ถ้าใครทำไม่ดีกับมันพึงระลึกไว้ว่ามันไม่มีทางลืมอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่า การเต้นรำของเนะโกะมะตะสามารถควบคุมคนตายได้ และยังเชื่ออีกว่าเนะโกะมะตะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ที่ผิดปกติ จึงมีความเชื่อบางอย่างที่จะตัดหางของแมวออก เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นเนะโกะมะตะ เรื่องเล่าของเนโกะมาตะนั้น แตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ บ้างก็ว่าห้ามทิ้งแมวไว้กับศพ เพราะมันจะปลุกศพคนตายให้ฟื้นคืนชีพ บ้างก็ว่าเนโกะมาตะจะกินคนที่เป็นเจ้านายของมัน และมีบางตำนานที่เล่าว่าในตอนกลางคืน เนโกะมาตะ จะแปลงกายเป็นสาวงามเพื่อปรนนิบัติเจ้านายที่มันหลงรักอีกด้วย ความสามรถขั้นเทพจริงๆ !
Rokurokubi...สาวคอยาว โรคุโรคุบิ ตำนานเกี่ยวกับมนุษย์ ที่โดนคำสาปจากไหนก็ไม่รู้อีกแล้ว โดยตอนกลางวันเป็นคนปกติธรรมดาเหมือนเราๆนี่แหละ แต่พอตกกลางคืนคอของเธอก็จะยืดยาวออกมา ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิงเนื้อเรื่องแอบคล้ายกระสือของพี่ไทยอยู่หน่อยๆ ต่างกันตรงที่ความสามารถพิเศษเท่านั้นเอง เพราะโรคุโรคุบินั้น จะยืดแค่คอ หัวและตัวนั้นลอยออกไปพร้อมกัน ไม่ได้ถอดหัวทิ้งร่างไว้แต่อย่างใด และจะดูดพลังวิญญาณของคนและสัตว์ไปเป็นอาหาร แต่ที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือพลังชีวิตของชายหนุ่ม เธอมักจะแฝงตัวและปิดบังตัวเอง แต่ปิดยังไง๊ ยังไงก็ไม่อยู่ จึงต้องแสดงตัวตนออกมา แต่เฉพาะกับพวกขี้เมา และผู้ชายงี่เงาเท่านั้น เหตุก็เพราะว่า เธอกลัวชายหนุ่มที่สนใจผิดหวังในคอยาวๆของเธอน่ะสิ ถึงจะคอยาวแต่เธอก็ยังเป็นหญิงสาวว่างั้น

Sarayashiki…ผีนับจาน ซารายาชิกิ หรือ โออิคุ แค่สโลแกนก็นับว่าแปลกแล้ว ครั้งแรกที่ได้ยินก็คิดแบบฮาๆว่า ผีบ้าอะไรมานั่งนับจาน ! แต่ที่มานั้นจริงจังกว่านั้นเยอะ โออิคุเป็นสาวใช้ในตระกูลอาโอยาม่า ที่บังเอิญไปรู้ถึงแผนการล้มการปกครองของเจ้าเมือง เธอจึงนำความลับนั้นไปบอกกับคนรักของตัวเอง ซึ่งเป็นทหารของเจ้าเมือง ทำให้แผนนการของอาโอยาม่าล้มเหลวไม่เป็นท่า พอรู้ว่าโออิคุเป็นตัวการทำให้แผนการล้มเหลว จึงใส่ความว่าโออิคุขโมยจานล้ำค่า ซึ่งมันมาป็นเซ็ท มีทั้งหมดด้วยกัน 10 ใบ หายไป 1 ใบ และด้วยจานเซ็ท 10 ใบนั้นทำให้โออิคุถูกทรมานจนตาย และตามด้วยการทิ้งศพไว้ที่บ่อน้ำอีกเช่นเคย วันดีคืนดีก็จะออกมานับจานข้างๆบ่อน้ำตั้งแต่ใบที่ 1 ถึงใบที่ 9 แต่นับยังไงมันก็ไม่ครบ 10 เธอจึงต้องนับไปเรื่อยๆด้วยเสียงคร่ำครวญว่าไอ้จานใบที่สิบมันไปอยู่ไหน นึกไม่ถึงว่าแค่เรื่องจานก็ทำให้หลอนได้เหมือนกัน
กัปปะ (Kappa)
ผีญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่อยู่ในจำพวกพรายน้ำ กัปปะจะมีลักษณะ รูปร่างหน้าตาคล้ายกบ แต่มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลัง จมูกแหลม ศีรษะแบน ไม่มีผมที่กลางกระหม่อม มีตัวสีเขียว ส่วนเท้าหน้าและเท้าหลังเป็นพังผืด
กัปปะเป็นปีศาจที่มีที่อยู่ตามหนองน้ำหรือแหล่งน้ำ และมีอาหารโปรดเป็น แตงกวา กัปปะชอบเล่นซูโม่เพราะคิดว่าตนเองมีพละเยอะ ส่วนลักษณะพิเศษของกัปปะ ก็คือ จะมีจานอยู่บนหัวซึ่งทีเอาไว้สำหรับเก็บน้ำ ซึ่งน้ำเหล่านี้เองที่ช่วยให้กัปปะมีพลังอำนาจพิเศษ และช่วยให้มีกำลังมากขึ้น แต่เมื่อใดที่กัปปะสูญเสียน้ำบนศีรษะไป ก็จะทำให้มันอ่อนแรงลง จนถึงขนาดที่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
แม้ว่ากัปปะร่างเล็กเหมือนเด็ก แต่กลับเป็นผีที่เอาชนะได้ยากมาก ทั้งนี้เนื่องจากเป็นปีศาจที่มีการผสมผสานของสัตว์หลายชนิด ตั้งแต่ มีปากแหลมเหมือนนก ผิวเป็นเมือกลื่นสีเขียว น้ำเงิน หรือแดงเหมือนปลา มือเป็นผังผืดเหมือนกบ หลังมีกระดองเหมือนเต่า อีกทั้งมีขนดกทั่วตัว มีแขนขายาวและยืดหยุ่นได้ หากเมื่อใดที่กัปปะขึ้นจากน้ำจะหมดฤทธิ์ทันที ทำให้ต้องใส่น้ำบนศีรษะเอาไว้ตลอดเวลา ดังนั้น จึงมีทริคในการต่อสู่กับกัปปะง่ายๆ ก็คือ เมื่อพบเจอตัวกัปปะให้ก้มหัวคาราวะ ซึ่งกัปปะจะก้มหัวตอบ ซึ่งจะทำให้น้ำบนศีรษะหก และหมดฤทธิ์ในที่สุด หรืออีกวิธีก็คือ ให้เขียนชื่อตัวเองลงไปในแตงกวา จากนั้นขว้างทิ้งลงแม่น้ำ เมื่อกัปปะมาเจอกับแตงกวาเข้า ก็จะเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย และจะสามารถจดจำชื่อที่อยู่บนแตงกวาได้ด้วย เมื่อคราวหน้าคราวหลังที่กัปปะบังเอิญมาเจอกับเจ้าของแตงกวา มันก็จะไม่ทำอะไรคนผู้นั้นอีก ปัจจุบันมีซูชิที่มีไส้เป็นแตงกวา ที่ถูกขนานนามว่า “กัปปะ มากิ”
กัปปะมักจะท้ามนุษย์แข่งซูโม่ เพราะมั่นใจในพละกำลังของตัวเองเป็นอย่างมาก จึงเกิดมีเรื่องเล่าขึ้นว่า คนฉลาดที่ท้าประลองซูโม่กับกัปปะ จะหลอกก้มหัวทำความเคารพกัปปะก่อนเริ่มการประลองเสียก่อน เมื่อน้ำบนหัวกัปปะกระฉอกออกจากจาน ก็จะทำให้กัปปะจะอ่อนกำลังลง และพ่ายแพ้อย่างง่ายได้ ซึ่งจะมีผลให้กัปปะเสียใจเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งนิสัยของกัปปะ คือ การชอบกินแตงกวา ทำให้ในฤดูเก็บเกี่ยวแตงกวาในประเทศญี่ปุ่น เกิดมีขนบธรรมเนียมในการลอยแตงกวาลงแม่น้ำขึ้น ทั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเซ่นวารีเทพ และทำบุญทำทานให้ผีที่อดโซนั่นเอง บวกกับกัปปะเป็นปีศาจที่มีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็น ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดเป็นเรื่องเล่าที่ว่า หากมีชายคนใดแก้ผ้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำ อาจถูกกัปปะดึงของลับ เพราะเข้าใจว่าเป็นแตงกวาที่เอามาเซ่นได้
กัปปะเป็นปีศาจที่อันตรายไม่แพ้ผีร้ายชนอดอื่นๆเลย และมักจะมีเรื่องเล่าอยู่เสมอว่า กัปปะจะล่อลวงให้คนหรือสัตว์ลงไปในน้ำจนจมน้ำตายในที่สุด หากกัปปะถูกชาวประมงจับได้ มันจะป้องกันตัวโดยการปล่อยตดออกมา ซึ่งกลิ่นตดของมันเหม็นบรรลัยเป็นอย่างมาก
กัปปะมีพฤติกรรมพิเลนที่ชอบแกล้งคน มีเรื่องเล่าที่ว่า กัปปะจะคอยแอบอยู่ตามห้องน้ำ เมื่อคนเผลอมันจะแกล้งใช้นิ้วสวนทวาร อย่างไรก็ตาม บางเวลากัปปะก็มีความอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก กัปปะถือเป็นพรายที่มีความความรู้สึกสำนึกเมื่อทำผิด และมันจะขอโทษโดยการออกไปจับปลามาให้ทุกวัน หรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาเองจากความเชี่ยวชาญ
ความเชื่อเรื่องกัปปะ แพร่กระจายไปทั่วทั้งญี่ปุ่น บางตำนานเล่าว่า มีช่างไม้คนหนึ่งที่มีนามว่า ฮิดาริจินโกโร่ ทำตุ๊กตาไม้ที่เขาทำขึ้นตกลงน้ำไป ซึ่งทำให้ตุ๊กตากลายร่างมาเป็นกัปปะ แต่บางตำนานก็เล่าว่า เดิมทีกัปปะเป็นเทพที่ทำหน้าที่ดูแลแม่น้ำ แต่พอมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้กัปปะกลายเป็นเพียงภูติผีธรรมดาไปแทน
ปัจจุบัน มีการนำเรื่องราวของกัปปะมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร หรือการ์ตูนหลายเรื่อง เช่น ตัวละครซูเนโอะในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นต้น โดยมากแล้ว กัปปะที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ มักจะไม่ค่อยมีภาพของความอันตราย สักเท่าไรนัก ซึ่งคาดเคลื่อนไปจากความเชื่อดั้งเดิมอยู่ไม่น้อย
ผีญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่อยู่ในจำพวกพรายน้ำ กัปปะจะมีลักษณะ รูปร่างหน้าตาคล้ายกบ แต่มีกระดองเต่าอยู่ข้างหลัง จมูกแหลม ศีรษะแบน ไม่มีผมที่กลางกระหม่อม มีตัวสีเขียว ส่วนเท้าหน้าและเท้าหลังเป็นพังผืด
กัปปะเป็นปีศาจที่มีที่อยู่ตามหนองน้ำหรือแหล่งน้ำ และมีอาหารโปรดเป็น แตงกวา กัปปะชอบเล่นซูโม่เพราะคิดว่าตนเองมีพละเยอะ ส่วนลักษณะพิเศษของกัปปะ ก็คือ จะมีจานอยู่บนหัวซึ่งทีเอาไว้สำหรับเก็บน้ำ ซึ่งน้ำเหล่านี้เองที่ช่วยให้กัปปะมีพลังอำนาจพิเศษ และช่วยให้มีกำลังมากขึ้น แต่เมื่อใดที่กัปปะสูญเสียน้ำบนศีรษะไป ก็จะทำให้มันอ่อนแรงลง จนถึงขนาดที่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
แม้ว่ากัปปะร่างเล็กเหมือนเด็ก แต่กลับเป็นผีที่เอาชนะได้ยากมาก ทั้งนี้เนื่องจากเป็นปีศาจที่มีการผสมผสานของสัตว์หลายชนิด ตั้งแต่ มีปากแหลมเหมือนนก ผิวเป็นเมือกลื่นสีเขียว น้ำเงิน หรือแดงเหมือนปลา มือเป็นผังผืดเหมือนกบ หลังมีกระดองเหมือนเต่า อีกทั้งมีขนดกทั่วตัว มีแขนขายาวและยืดหยุ่นได้ หากเมื่อใดที่กัปปะขึ้นจากน้ำจะหมดฤทธิ์ทันที ทำให้ต้องใส่น้ำบนศีรษะเอาไว้ตลอดเวลา ดังนั้น จึงมีทริคในการต่อสู่กับกัปปะง่ายๆ ก็คือ เมื่อพบเจอตัวกัปปะให้ก้มหัวคาราวะ ซึ่งกัปปะจะก้มหัวตอบ ซึ่งจะทำให้น้ำบนศีรษะหก และหมดฤทธิ์ในที่สุด หรืออีกวิธีก็คือ ให้เขียนชื่อตัวเองลงไปในแตงกวา จากนั้นขว้างทิ้งลงแม่น้ำ เมื่อกัปปะมาเจอกับแตงกวาเข้า ก็จะเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย และจะสามารถจดจำชื่อที่อยู่บนแตงกวาได้ด้วย เมื่อคราวหน้าคราวหลังที่กัปปะบังเอิญมาเจอกับเจ้าของแตงกวา มันก็จะไม่ทำอะไรคนผู้นั้นอีก ปัจจุบันมีซูชิที่มีไส้เป็นแตงกวา ที่ถูกขนานนามว่า “กัปปะ มากิ”
กัปปะมักจะท้ามนุษย์แข่งซูโม่ เพราะมั่นใจในพละกำลังของตัวเองเป็นอย่างมาก จึงเกิดมีเรื่องเล่าขึ้นว่า คนฉลาดที่ท้าประลองซูโม่กับกัปปะ จะหลอกก้มหัวทำความเคารพกัปปะก่อนเริ่มการประลองเสียก่อน เมื่อน้ำบนหัวกัปปะกระฉอกออกจากจาน ก็จะทำให้กัปปะจะอ่อนกำลังลง และพ่ายแพ้อย่างง่ายได้ ซึ่งจะมีผลให้กัปปะเสียใจเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งนิสัยของกัปปะ คือ การชอบกินแตงกวา ทำให้ในฤดูเก็บเกี่ยวแตงกวาในประเทศญี่ปุ่น เกิดมีขนบธรรมเนียมในการลอยแตงกวาลงแม่น้ำขึ้น ทั้งนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเซ่นวารีเทพ และทำบุญทำทานให้ผีที่อดโซนั่นเอง บวกกับกัปปะเป็นปีศาจที่มีนิสัยที่ขี้เล่นและอยากรู้อยากเห็น ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดเป็นเรื่องเล่าที่ว่า หากมีชายคนใดแก้ผ้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำ อาจถูกกัปปะดึงของลับ เพราะเข้าใจว่าเป็นแตงกวาที่เอามาเซ่นได้
กัปปะเป็นปีศาจที่อันตรายไม่แพ้ผีร้ายชนอดอื่นๆเลย และมักจะมีเรื่องเล่าอยู่เสมอว่า กัปปะจะล่อลวงให้คนหรือสัตว์ลงไปในน้ำจนจมน้ำตายในที่สุด หากกัปปะถูกชาวประมงจับได้ มันจะป้องกันตัวโดยการปล่อยตดออกมา ซึ่งกลิ่นตดของมันเหม็นบรรลัยเป็นอย่างมาก
กัปปะมีพฤติกรรมพิเลนที่ชอบแกล้งคน มีเรื่องเล่าที่ว่า กัปปะจะคอยแอบอยู่ตามห้องน้ำ เมื่อคนเผลอมันจะแกล้งใช้นิ้วสวนทวาร อย่างไรก็ตาม บางเวลากัปปะก็มีความอ่อนน้อมและมีสัมมาคาราวะมาก กัปปะถือเป็นพรายที่มีความความรู้สึกสำนึกเมื่อทำผิด และมันจะขอโทษโดยการออกไปจับปลามาให้ทุกวัน หรือไม่ก็มอบยาสมุนไพรชั้นเลิศที่มันปรุงขึ้นมาเองจากความเชี่ยวชาญ
ความเชื่อเรื่องกัปปะ แพร่กระจายไปทั่วทั้งญี่ปุ่น บางตำนานเล่าว่า มีช่างไม้คนหนึ่งที่มีนามว่า ฮิดาริจินโกโร่ ทำตุ๊กตาไม้ที่เขาทำขึ้นตกลงน้ำไป ซึ่งทำให้ตุ๊กตากลายร่างมาเป็นกัปปะ แต่บางตำนานก็เล่าว่า เดิมทีกัปปะเป็นเทพที่ทำหน้าที่ดูแลแม่น้ำ แต่พอมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้กัปปะกลายเป็นเพียงภูติผีธรรมดาไปแทน
ปัจจุบัน มีการนำเรื่องราวของกัปปะมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร หรือการ์ตูนหลายเรื่อง เช่น ตัวละครซูเนโอะในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นต้น โดยมากแล้ว กัปปะที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ มักจะไม่ค่อยมีภาพของความอันตราย สักเท่าไรนัก ซึ่งคาดเคลื่อนไปจากความเชื่อดั้งเดิมอยู่ไม่น้อย

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น